ตลท.ติดเบรกหุ้นร้อน ZIGA สกัดข่าวเหมืองบิทคอยน์ปั้นราคาหุ้น

หุ้น “ซิก้า อินโนเวชั่น” ยังคงวิ่งเป็นกระทิงดุ ส่งผลให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ ประกาศเข้าข่ายมาตรการกำกับการซื้อขายหลักทรัพย์ ZIGA และวอร์แรนท์ ระดับ 1 ด้วย Cash Balance หลังราคาพุ่งชนซิลลิ่งต่อเนื่อง ขณะผู้บริหารแจงไม่มีพัฒนาการที่สำคัญอื่นใดๆ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อปริมาณและราคาการซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัทฯ พร้อมเดินหน้าเหมืองบิทคอยน์ตามแผน เชื่อสร้างรายได้กำไรก้าวกระโดด ด้าน “สมพงษ์ ศิลป์สมบูรณ์” เก็บเข้าพอร์ต 12.3485% ขึ้นแท่นถือหุ้นใหญ่อันดับ 2 โบรกฯมองอนาคตสดใสให้ราคาเหนือ 7 บาท

และแล้วตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. ประกาศหลักทรัพย์ที่เข้าข่ายมาตรการกำกับการซื้อขาย หลักทรัพย์ของ บริษัท ซิก้า อินโนเวชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ZIGA และใบสำคัญแสดงสิทธิหรือวอร์แรนท์ ในการจองซื้อหุ้นสามัญของZIGA ครั้งที่ 1 ระดับ 1 ด้วย Cash Balance ตั้งแต่ 17 ก.พ. ถึง 8 มี.ค. 2565 หลังจากราคาหุ้น ZIGA พุ่งชนซีลลิ่งต่อเนื่องเมื่อวันก่อน ซึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาพบหุ้นที่ลงทุนในธุรกิจขุดเหมืองเงินดิจิทัล (Cryptocurrency Mining) มีสภาพการซื้อขายในลักษณะเก็งกำไรสูง โดยราคา มูลค่าการซื้อขาย และอัตราการหมุนเวียนเปลี่ยนมือ (%Turnover ratio) ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมากและต่อเนื่อง และหนึ่งในนั้นที่ราคาหุ้นบวกต่อเนื่องมาหลายวันคือ หุ้น บมจ.ซิก้า อินโนเวชั่น (ZIGA) ราคาเพิ่มขึ้น 89% ด้วยมูลค่าซื้อขายเฉลี่ย 1,970 ล้านบาท/วัน % Daily Average Turnover Ratio อยู่ที่ 44% แม้กระทั่ง ตลท. ออกมาเตือนการซื้อขายหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการท้าเหมืองขุดบิทคอย หลังจากราคาปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรง

ขณะที่ ทางบริษัทออกมาชี้แจงหลัง ตลท.สอบถามกรณีราคาหุ้นปรับเพิ่มต่อเนื่องอย่างมีนัยสำคัญนั้น ที่อาจส่งผลต่อราคาหลักทรัพย์ของ ZIGA ซึ่งทางบริษัทแจงว่ามีเพียงแจ้งเรื่องการลงทุนในธุรกิจขุดเหมืองบิตคอยน์ เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2565 และแจ้งการดำเนินธุรกิจใหม่ของบริษัทย่อยของบริษัท และวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2565 และไม่มีพัฒนาการที่สำคัญอื่นใดๆ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อปริมาณและราคาการซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัทฯ

ทั้งนี้ ราคาหุ้น ZIGA ผู้ผลิตและจำหน่ายท่อเหล็กโครงสร้างประเภท Pre-Zinc แบรนด์ ZIGA และท่อร้อยสายไฟแบรนด์ DAIWA ซึ่งเป็นนวัตกรรมสินค้าทดแทนในกลุ่มท่อเหล็กชุบสังกะสี หรือท่อเหล็กดำทาสีคึกคัก หลังราคาหลุด 6 บาทเมื่อ 13 พ.ค.ที่ผ่านมา ขณะราคาบวกลบวันละ 10-30 สตางค์ กระทั่งกลับมายืนเทรดเหนือ 5 บาทกว่า หรืออีกนัยหนึ่งคือคืนสู่ฐานเดิม วันศุกร์ที่ 11 ก.พ.หุ้น ZIGA ปิดที่ 5.05 บาท ไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้า มูลค่าซื้อขาย 21.13 ล้านบาท และราคาหุ้นยังคงพุ่งต่อในสัปดาห์นี้จนกระทั่งซิลลิ่งและ ตลท.ต้องออกมาเบรคความร้อนแรงของหุ้นตัวนี้ ล่าสุดเมื่อ 15 ก.พ. ZIGA ปิดที่ 15.40 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท หรือ 29.41% มูลค่าซื้อขาย 1,531.79 ล้านบาท

“ธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล หรือการทำเหมืองบิทคอยน์” คืออีกหนึ่งกระแสที่ฮอตขึ้นมาอีกหนึ่งกระแส หลังจากหลายปีก่อนบริษัททะเบียนหรือ บจ. หลายแห่งพาเหรดเข้าเบนเข็มธุรกิจ สู่พลังงานทดแทน หลังความต้องการใช้ไฟฟ้ามีเพิ่มต่อเนื่อง ตามด้วยธุรกิจกัญชงกัญชา หลังรัฐไฟเขียวให้ใช้ประโยชน์จากพืชชนิดนี้ ในทางการแพทย์และสุขภาพ จนทำให้กลายเป็น”ของแพง” และ บจ.ที่ขยันออกมาให้ข่าวและบอกกล่าวถึงความคืบหน้าของตนก็ทำให้ราคาหุ้นคึกคักตาม

ดังนั้น จึงทำให้ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลร้อนแรงอย่างมาก ส่วนหนึ่งเพราะได้แรงผลักดันมาจากคริปโตเคอร์เรนซี่อย่าง Bitcoin ตั้งแต่ปลายปี 63 จนถึงปี 64 ราคาพุ่งทะยานในระยะ 34,000-42,000 ดอลลาร์ หรือมากกว่า 1.2 ล้านบาทต่อ 1 Bitcoin นักลงทุนรายย่อยต่างขายทำกำไรกันได้หลายเท่าตัว นั่นจึงส่งผลให้นักลงทุนสถาบันยอมรับให้คริปโตฯ เป็นอีกทางเลือกสำหรับการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนดี

ดังนั้น จึงไม่แปลกที่ บจ. บางแห่งขยับตัวเพื่อทำเหมืองบิทคอยน์ (Bitcoin Mining) และ บริษัท ซิก้า อินโนเวชั่น จากัด (มหาชน) หรือ ZIGA ผู้ผลิตและจำหน่ายท่อเหล็กโครงสร้างประเภท Pre-Zinc แบรนด์ ZIGA และท่อร้อยสายไฟแบรนด์ DAIWA คือหนึ่งในนั้น เพราะ ZIGA แจ้งตลาดหลักทรัพย์ว่า บริษัท ซิก้า เอฟซี จำกัด หรือ Ziga FC ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทได้ดำเนินการลงทุนในธุรกิจขุดเหมืองบิทคอยน์ (Bitcoin Mining) ซึ่งเป็นธุรกิจใหม่ โดยที่ได้ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจนี้อย่างดีมาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว และเห็นว่าการลงทุนในธุรกิจดังกล่าวเป็นการลงทุนในระยะยาว และยังสามารถสร้างรายได้ใหม่ให้แก่บริษัทอย่างต่อเนื่อง

“สมพงษ์ ศิลป์สมบูรณ์” ถือหุ้นใหญ่อันดับ 2

อย่างไรก็ดี ขณะที่ราคาหุ้น ZIGA ยังคงเทรดในราคาเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เมื่อวันที่ 14 ก.พ. สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. ได้รับรายงานการได้มาหุ้น ZIGA โดย ” นายสมพงษ์ ศิลป์สมบูรณ์” ซึ่งเป็นการได้มาเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2565 จำนวนหลักทรัพย์ที่ได้มาคิดเป็น 12.3485% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ จำนวนหลักทรัพย์ภายหลังการได้มาคิดเป็น 12.3485% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ ซึ่งซื้อมาในราคา า 7.15 บาท/หุ้น นั่นจึงทำให้นายสมพงษ์ กลายเป็นผู้ถือหุ้นอันดับ 2 ไปโดยปริยาย (ดูตาราง)

หวังเหมืองบิทคอยน์ปั๊มผลงานกระโดด

“นายศุภกิจ งามจิตรเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ZIGA” เปิดเผยถึงความคืบหน้าการลงทุนในธุรกิจ bitcoin mining โดยเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2565 บริษัท ซิก้า เอฟซี จำกัด (บริษัทย่อย) ได้ประชุมคณะกรรมการบริษัท เพื่อขออนุมัติสั่งซื้อเครื่องขุดบิตคอยน์ จำนวน 200 เครื่องเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 100 ล้านบาท ซึ่งได้ทำการสั่งซื้อไปเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2565 กับบริษัทแห่งหนึ่ง คาดติดตั้งแล้วเสร็จในเดือน กุมภาพันธ์ 2565 พร้อมจ่ายชำระในคราวเดียวกัน หากการติดตั้งเครื่องขุดบิตคอยน์เป็นไปตามแผน คาดว่าจะทำการรับรู้รายได้ในไตรมาส 1 ปี 2565 เป็นต้นไป

ทั้งนี้ ZIGA ถือว่าเป็นบริษัทฯที่มีความเชี่ยวชาญ และมีความเข้าใจ งานด้านการวางระบบไฟฟ้า เนื่องจากเป็นผู้ผลิตท่อร้อยสายไฟมาตรฐานสากล และส่งออก ภายใต้แบรนด์ DAIWA จึงมีความมั่นใจในการติดตั้งงานระบบไฟฟ้า โดยเฉพาะความปลอดภัยในมาตรฐานอุปกรณ์ไฟฟ้า เนื่องจากดำเนินธุรกิจเกี่ยวข้องกับระบบท่อร้อยสายไฟ หนึ่งในความปลอดภัยในอาคารอุตสาหกรรมผู้รับเหมาไฟฟ้า ซึ่งบริษัทฯดำเนินการมากว่า 25 ปีในโครงการขนาดใหญ่ทั้งในและนอกประเทศ อีกทั้งมีคู่ค้าที่ให้การปรึกษา และดำเนินการในการทำธุรกิจด้านไฟฟ้าแต่ดั้งเดิม เช่น บริษัท เจริญชัยหม้อแปลงไฟฟ้า จำกัด การทำธุรกิจ bitcoin mining ใช้ความรู้เฉพาะทางด้านไฟฟ้าเป็นสำคัญในการบริหาร

นอกจากนี้ บริษัทฯได้ศึกษาข้อมูลการดำเนินการธุรกิจนี้มาระยะหนึ่งในปีที่ผ่านมาเข้าดำเนินการลงทุน และศึกษาความเสี่ยงในระดับต่างๆอย่างระมัดระวัง เพื่อรักษาผลประโยชน์ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย และบริษัทฯได้มีการลงทุนแล้วทั้งสิ้น 2 โครงการ โดยโครงการแรกเริ่มลงทุนขุดบิตคอยน์ ในเดือนธันวาคม 2564 เทียบเท่า 100 เครื่อง และโครงการที่ 2 ลงทุนขุดบิตคอยน์ในเดือนมกราคม 2565 เทียบเท่า 100 เครื่อง

“การลงทุนในธุรกิจ bitcoin mining ซึ่งเป็นธุรกิจใหม่ โดยที่ผ่านมาได้มีการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจนี้เป็นอย่างดีมาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว และเห็นว่าการลงทุนในธุรกิจดังกล่าวเป็นการลงทุนสามารถสร้างรายได้ใหม่ และถือเป็นการทรานฟอร์มสู่ธุรกิจเทคโนโลยี จากธุรกิจผลิตและจำหน่ายเหล็กโครงสร้างประเภท Pre-zinc ภายใต้ตราสินค้า “ZIGA” และท่อเหล็กร้อยสายไฟประเภท Pre-zinc ภายใต้ตราสินค้า “DAIWA” ซึ่งการลงทุนซื้อเครื่องขุดเพิ่มในครั้งนี้ จะทำให้บริษัทฯมีเครื่องขุดบิตคอยน์เพิ่มขึ้นเป็น 400 เครื่อง ภายในไตรมาส1/2565 และจะช่วยสร้างรายได้กำไรเพิ่มขึ้น ผลักดันการเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นได้อย่างต่อเนื่อง” นายศุภกิจกล่าว

โควิดไม่กระทบการดำเนินงาน

สำหรับปีที่ผ่านมา ธุรกิจของ ZIGA มีการเติบโตได้ดีกว่าที่คาด แม้จะต้องเผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 หลายระลอก แต่ด้วยกลยุทธ์การขยายสาขาในรูปแบบธุรกิจแฟรนไชส์อย่างเต็มที่สามารถดึงดูดเครื่องข่ายธุรกิจท้องถิ่นมาเป็นกำลังสำคัญในการขยายสาขา โดยจะสร้างพันธมิตรธุรกิจที่เติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืน พร้อมดำเนินงานการขยายแฟรนไชส์ ZIGA OUTLET และทำให้เห็นความชัดเจนมากขึ้น พร้อมทั้งยังดำเนินการ แผนการตลาดที่มุ่งเน้นในการเชื่อมโยงผู้คนมากขึ้น”Connect People” ทั้งในกลุ่มออนไลน์ และออฟไลน์ ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จได้เป็นอย่างดี ดังนั้นบริษัทฯมั่นใจว่าปีนี้จะเป็นปีทองที่จะเห็นการเติบโตได้ทุกไตรมาส และในปี2564 ผลงานยังสามารถทำสถิตินิวไฮได้อย่างต่อเนื่อง (ดูตาราง)

อีกทั้ง บริษัทยังคงเดินหน้ากลยุทธ์การทำการตลาด(niche market) มากขึ้น เพื่อทำให้รายได้และอัตรากำไรเติบโตอย่างมั่นคง โดยเฉพาะในกลุ่มตลาดซ่อมแซม และเน้นเพิ่มสัดส่วนสินค้ากลุ่มโรงเรือนเกษตรพืชเศรษฐกิจ กัญชา กัญชง เพราะที่ผ่านมามีความต้องการใช้เหล็กกัลวาไนซ์ในการสร้างโรงเรือนสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้จะเป็นช่วงเริ่มต้นซึ่งอยู่ระหว่างขั้นตอนที่ผู้ประกอบธุรกิจต้องขอใบอนุญาต หากได้รับอนุมัติก็มีความพร้อมที่จะสร้างโรงเรือนในจำนวนที่เพิ่มขึ้นทันที

โบรก ฯ มองอนาคตสดใสให้ราคาเหนือ 7 บาท

“ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย) จำกัด(มหาชน) หรือ บล.เมย์แบงก์ฯ ” คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 7.15 บาท/ หุ้น อิง P/E เฉลี่ยกลุ่ม 21.7 เท่า ตามเดิม เพราะแนวโน้มไตรมาส 3 คาด ZIGA จะทำกำไรเป็นสถิติใหม่อีกครั้งจากอุปสงค์ในเหล็กนวัตกรรม pre-zinc ที่ฟื้นตัวอย่างรวดเร็วหลังการผ่อนคลายภาคก่อสร้างระหว่างไตรมาส ขณะที่ ZIGA กำลังเริ่มทยอยรับรู้รายได้จากการขายแฟรนไชส์ Ziga store เป็นครั้งแรก ทำให้ภาพรวมปี 64 มีแนวโน้มที่ ZIGA จะทำได้ดีกว่าประมาณการของ บล.เมย์แบงก์ฯ 15-20%

ปัจจุบันราคาหุ้นเทรดที่ PEG 0.4x ขณะที่ความสม่ำเสมอของกำไรเริ่มดูดีกว่ากลุ่มเหล็กซึ่งผันผวนไปกับราคาเหล็กโลก ส่วนหนึ่งมาจากการเป็นผลิตภัณฑ์ทดแทนเหล็กท่อดำในประเทศ ซึ่ง ZIGA มียอดขายปีละ 5-8 หมื่นตัน ขณะที่ไทยบริโภคเหล็กปีละ 18 ล้านตันแม้จะมีปิดแคมป์ คนงาน แต่ไตรมาส 3/64 จะยังทำได้ดี และไม่ได้รับผลกระทบจากราคาเหล็กที่พุ่งขึ้น เพราะกำหนดราคาแบบบวกเพิ่ม(cost plus) ยิ่งไปกว่านั้น ความนิยมในเหล็ก Pre-zinc ซึ่งเป็นสินค้าทดแทนเหล็กท่อดำยังคงเพิ่มอย่างต่อเนื่อง ส่วนธุรกิจโรงเรือนปลูกกัญชงน่าจะได้ข้อสรุป เช่นกัน บล.เมย์แบงก์ฯ ประมาณการกำไรสุทธิปีนี้ที่ 169 ลบ. เพิ่มขึ้น 43.6% จากปีก่อน จะบรรลุได้แบบสูงกว่าคาดของ บล.เมย์แบงก์ฯ 15-20% อีกด้วย

“บล. หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด” ประเมินราคาเหมาะสม ZIGA ปี 2565 ที่ 7.30 บาท คาดว่ากำไรสุทธิไตรมาส 3 นี้ จะทำสถิติใหม่ ที่ 60 ล้านบาท โต 20% เทียบไตรมาสก่อน และ 46% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ด้วยความต้องการเหล็กในประเทศที่สูงขึ้น , ธุรกิจแฟรนไชส์ คาดกำไรสุทธิปี 64 ที่ 180 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 53% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และปี 65 ที่ 270 ล้านบาท เพิ่ม 50% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งจะมีปัจจัยหนุนปี 65 จาก คำสั่งซื้อเร่งตัวขึ้น และเริ่มรับรู้รายได้จากธุรกิจแฟรนไชส์ การขยายธุรกิจ ไปยังกลุ่มค้าปลีก ผ่านช่องทางร้านทั่วไป โมเดิร์นเทรด และแฟรนไชส์ และส่วนแบ่งการตลาดท่อร้อยสายไฟ ขึ้นมาใกล้เคียงเบอร์ 1 เพราะ ZIGA มีสินค้ารอส่งมอบตลอดเวลา อีกทั้ง คาดโรงเรือนกัญชงมีความคืบหน้ามากในไตรมาส 4 ปีนี้ พร้อมแรงหนุนภาวะอุตสาหกรรมเป็นบวก ยอดนำเข้าเหล็กและ เหล็กกล้าที่เติบโต

สำหรับผลงาน 6 เดือนแรกปี 2564 บริษัทมียอดขายแล้ว 589.58 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 80.70 ล้านบาท ส่วนปี 2563 บริษัทมียอดขายที่ 995.68 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 117.71 ล้านบาท

บล.กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ZIGA แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 6 บาท ฝ่ายวิเคราะห์ประเมินกำไรไตรมาส 4/2564 ที่ 42 ล้านบาท ทำให้กำไรปี 2564 ทำจุดสูงสุดใหม่เป็น 198 ล้านบาท เติบโต 68% จากปีก่อนหน้า และคาดกำไรปี 2565 เติบโตต่ออีก 16% เป็น 230 ล้านบาท หนุนโดย Economies of Scale จากการใช้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้น ,การเพิ่ม Distribution Channel , การเพิ่มสินค้าใหม่กลุ่มท่อน้ำ และรายได้เพิ่มขึ้นจากธุรกิจโครงสร้างโรงเรือนเพาะกัญชา กัญชง แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 6.00 บาท

อ้างอิง
https://m.mgronline.com/stockmarket/